ศรีวิชัยปลุกจิตสำนึก นำ น.ศ.ทำบุญเข้าพรรษา
โพสโดย webmaster เมื่อ September 18 2009 18:35:00
ศรีวิชัยปลุกจิตสำนึก นำ น.ศ.ทำบุญเข้าพรรษา
ในวิถีชีวิตของคนไทยจะมีประเพณีและวันสำคัญมากมายในทุกปี
สำหรับเดือนกรกฎาคมก็จะมีวันสำคัญทางพุทธศาสนาอยู่ถึง 2 วัน คือ วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา
ทั้ง 2 วันนี้จะเป็นวันที่ชาวพุทธจะได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน และเวียนเทียน
ผศ.อุไรวรรณ สุภานินิตย์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) เล็งเห็นความสำคัญทางพุทธศาสนา และต้องการปลุกจิตสำนึกที่ดีให้กับนักศึกษา
ด้วยความเชื่อที่ว่าการสืบสานประเพณีไทยจะต้องเริ่มจากการปลูกฝังและพยายามให้นักศึกษายึดถือปฏิบัติเป็นหน้าที่ ซึ่งทุกวันนี้แทบจะสูญหายไป เพราะมีสิ่งยั่วยุมากมายเกิดขึ้นในสังคม หากไม่รีบสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับนักศึกษา ประเพณีไทยคงไม่มีหลงเหลือให้เห็นอีกต่อไป
อ.อดิศักดิ์ จิตภูษา อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ หัวหน้าในการจัดกิจกรรม ซึ่งมีแนวคิดในการปลูกจิตสำนึกให้นักศึกษาหันมาสนใจประเพณีไทย ให้ความเห็นว่า มองสภาพสังคมในปัจจุบันน่าตกใจอย่างมาก ด้วยความก้าวหน้า และความทันสมัย ที่เยาวชนในยุคปัจจุบันเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับวันสำคัญทางศาสนากลับค่อยๆ เลือนรางไปจากความคิดของเยาวชนสมัยใหม่
ทางคณะศิลปศาสตร์จึงจัดกิจกรรมวันเข้าพรรษาขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกๆ ปี แต่ในปีนี้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เพราะได้เลือกที่จะเดินทางไปยังวัดคงคาสวัสดิ์ ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองประมาณ 44 ก.ม.
"เส้นทางในการเดินทางหากใครได้ติดตามข่าวอาจทราบดีว่าเส้นทางดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง นั้นคือมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยมีนักศึกษาอาสาเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 150 คน ด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจของคณาจารย์และนักศึกษา บวกกับความร่วมมือของชาวบ้านที่คอยดูแลเป็นอย่างดี จึงทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น"
อ.อดิศักดิ์กล่าวต่อไปอีกว่า จริงๆ การทำบุญไม่จำเป็นต้องเลือกวัด สามารถทำบุญได้เหมือนกัน ถ้าจิตใจสงบ และมีความตั้งใจจริง แต่อีกมุมมองหนึ่งในการตัดสินใจพานักศึกษากว่า 150 คนไปทำกิจกรรมซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัว อ.เมือง ก็คือวัดที่อยู่ห่างไกล ค่อนข้างขาดแคลน โดยเฉพาะวัดคงคาสวัสดิ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง จึงทำให้ผู้คนค่อนข้างกลัวไม่กล้าเข้าไปทำบุญ จะมีก็แต่ชาวบ้านในละแวกใกล้ๆ ในชุมชนเท่านั้น
"ในความเป็นจริงแล้วการไปวัดคงคาสวัสดิ์ที่อยู่ในพื้นที่สีแดงนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ได้รับเมื่อเดินทางไปถึงคือความอบอุ่น มิตร ไมตรีที่ได้รับจากชาวบ้าน เหมือนเราเป็นลูกหลานแท้ๆ ของพวกเขาเลยทีเดียว ชาวบ้านบางคนถึงกับน้ำตาซึมที่เห็นเยาวชนรุ่นใหม่ร่วมใจกันสืบสานประเพณีไทย ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน"
สำหรับกิจกรรมในวันเข้าพรรษาที่ผ่านมาแบ่งเป็น 2 ช่วง ในช่วงเช้า คณาจารย์ นักศึกษา ชาวบ้าน ร่วมกันถวายเทียนพรรษาซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม ถวายเครื่องอัฐบริขารและผ้าอาบน้ำฝน ถวายภัตตาหารเพล ถวายทาน รักษาศีล ฟังธรรมและเจริญภาวนา ซึ่งเป็นการเว้นจากการกระทำความชั่ว บำเพ็ญความดี และชำระจิตใจให้สะอาดแจ่มใส
แต่ก่อนที่จะถวายเทียนพรรษาประเพณีทางศาสนาจะต้องแห่เทียนพรรษารอบโบสถ์ 3 รอบ ในการแห่เทียนพรรษานอกจากจะได้ปฏิบัติตามประเพณีดั้งเดิมแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านได้นำขบวนกลองยาวมาสร้างความรื่นเริง ในการแห่เทียน ซึ่งทางภาคใต้ผู้ที่เข้าร่วมในขบวนก็จะร่ายรำไปตามจังหวะของกลองยาว เพราะเชื่อถือกันว่าการได้ร่วมในขบวนจะได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ
ส่วนในช่วงบ่าย นักศึกษาและชาวบ้านร่วมกันพัฒนาวัด เก็บกวาดขยะ ล้างถ้วยชาม ก่อนเดินทางกลับสู่ มทร.ศรีวิชัย
นอกจากนักศึกษาจะได้เรียนรู้ถึงวัฒน ธรรมประเพณีของไทย ยังมีโอกาสได้ทำบุญ และเรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
อ้างอิง : รายงานพิเศษ ข่าวสดรายวัน วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6810 หน้า 30