หมอชีวกโกมารภัจจ์ (ตอนที่ 3) รักษาริดสีดวงทวาร
โพสโดย webmaster เมื่อ September 18 2009 18:23:47
หมอชีวกโกมารภัจจ์ (ตอนที่ 3) รักษาริดสีดวงทวาร
คราวหนึ่งพระเจ้าพิมพิสาร ทรงประชวรเป็นริดสีดวงทวาร พระโลหิตไหลออกมาเปื้อนพระภูษาอยู่เป็นประจำ เวลาเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจหรือเสด็จออกราชการในที่ใดๆ พระโลหิตก็จะเปื้อนพระภูษาอยู่อย่างนั้น จนบรรดาสนมน้อยใหญ่ทั้งหลายพากันแอบกระซิบกระซาบอย่างสนุกสนานว่า เวลานี้พระเจ้าแผ่นดิน ทรงมีระดู สงสัยทรงมีต่อมพระโลหิตเหมือนกับพวกเรา อีกไม่นาน คงจะมีพระประสูติกาลเป็นแน่
เสียงกระซิบกระซาบนั้นแพร่ไปถึงพระกัณณ์ของพระองค์ แม้ไม่ทรงพระพิโรธแต่ต้องทรงเขินอายบรรดาสนมน้อยใหญ่ของพระองค์เป็นอย่างมาก วันหนึ่งเมื่อพระอภัยราชกุมารเข้าเฝ้าจึงรับสั่งว่า อภัยเอ๋ย ตอนนี้ พ่อเป็นริดสีดวงทวารอย่างแรง เลือดไหลไม่หยุดเลย เวลาไปไหนมาไหน เลือดไหลเปรอะผ้าหมดเลย นางสนมพากันเยาะเย้ยพ่อว่า พ่อมีประจำเดือนและมีต่อมโลหิต ไม่นานพ่อคงจะคลอด พ่อได้ยินแล้วอายนะลูกนะ ลูกมีหมอที่เชี่ยวชาญทางนี้บ้างไหม ถ้ามีช่วยเชิญมารักษาพ่อทีเถิด
เจ้าชายอภัยกราบทูลว่า ข้าพระองค์มีลูกในอุปถัมภ์คนหนึ่ง ได้ไปเรียนแพทย์จบมาจากตักกสิลา ยังเป็นหนุ่ม แต่มีความรู้ดีมาก เคยรักษามาบ้างแล้ว ตั้งแต่เพิ่งสำเร็จการศึกษาใหม่ๆ ตอนนี้ก็พักอยู่ในเขตราชสถานของข้าพระองค์พระเจ้าข้า
พระเจ้าพิมพิสารรับสั่งว่า ถ้าอย่างนั้น จงนำหมอชีวกมารักษาพ่อเถิด
เจ้าชายอภัยเสด็จกลับมาแจ้งข่าวเรื่องพระเจ้าพิมพิสารรับสั่งให้ไปเฝ้าแก่หมอชีวกอย่างรวดเร็ว
หมอชีวกได้รับทราบข่าวนี้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี ที่จะได้มีโอกาสถวายการรับใช้ใกล้เบื้องพระยุคลบาทของพระเจ้าพิมพิสาร พระอริยกษัตริย์แห่งแคว้นมคธ ซึ่งพระองค์ทรงบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันตั้งแต่พบพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ที่ลัฏฐิวันสวนตาลหนุ่มใกล้กรุงราชคฤห์นั้นแล้ว
หมอชีวกเตรียมตัวเดินทางเข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสารทันที เมื่อถวายรายงานให้พระองค์ทรงทราบถึงความเป็นมาของตนแล้ว จึงได้ตรวจรักษาแล้วปรุงยาทาขึ้นมาขนานหนึ่ง ทรงถวายให้พระองค์ จากนั้นไม่นาน โรคริดสีดวงทวารที่เป็นเรื้อรังมานานก็หายด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว
เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงหายจากการประชวรแล้ว ได้รับสั่งให้เข้าเฝ้าเพื่อมอบรางวัลค่ารักษาแก่หมอชีวก โดยพระเจ้าพิมพิสารรับสั่งให้สตรีในวังห้าร้อยคนแต่งตัวด้วยเครื่องประดับอันประกอบด้วยเพชรนิลจินดาตามที่ปรารถนา เมื่อแต่งตัวมาเฝ้าเสร็จแล้วจึงรับสั่งให้กลับไปเปลื้องเครื่องแต่งตัวที่มีค่าเหล่านั้นออก นำไปห่อแล้วนำมากองต่อหน้าพระพักตร์
พระเจ้าพิมพิสารตรัสว่า เราจะให้เครื่องประดับอันมีค่าเหล่านี้เป็นสมบัติของเจ้า
หมอชีวกได้ฟังดังนั้น จึงกราบบังคมทูลว่า ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ พระกรุณาของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์ในครั้งนี้ หาที่สุดมิได้ ข้าพระองค์ขอถวายเครื่องประดับเหล่านี้กลับคืนแก่พระองค์ เพราะการรักษาพระองค์จนหายจากโรคในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของข้าพระองค์
พระเจ้าพิมพิสารได้ประจักษ์ถึงจริยธรรมและความเก่งกล้าในการรักษาของหมอชีวกแล้ว จึงทรงแต่งตั้งให้หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นแพทย์ประจำพระองค์พระเจ้าพิมพิสารและประจำพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
หมอชีวกโกมารภัจจ์ รับพระบรมราชโองการด้วยความเต็มใจว่า ควรมิควรแล้วแต่พระองค์จะทรงพระกรุณา
แม้หมอชีวกโกมารภัจจ์ จะมีตำแหน่งเป็นแพทย์หลวงและแพทย์ประจำพระองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เมื่อทราบว่า ใครป่วยไข้หมอชีวกจะรักษาให้ด้วยความเต็มใจ เมื่อรักษาแล้วใครจะมอบรางวัลการรักษามากหรือน้อยไม่มีข้อกำหนด คงทำไปด้วยกุศลเจตนาที่จะรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ให้หายจากความเจ็บปวด อันเกิดจากพิษไข้เป็นเรื่องสำคัญ
อ้างอิง : ผู้เขียน ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ วัดพุทธปัญญา แคลิฟอร์เนีย พิมพ์ในนิตยสาร "เทคโนโลยีชาวบ้าน" หน้าธรรมะจากวัด หน้า 112 ฉบับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 21 ฉบับที่ 457